- ต้นจิกบ้าน หรือ ต้นจิกสวน มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทยและเพื่อนบ้านใกล้เคียงตั้งแต่ประเทศอินเดียไปจนถึงเกาะชวาของอินโดนีเซีย และมีเขตการกระจายพันธุ์ตั้งแต่ทางตอนใต้ของแอฟริกาถึงเคนยา อินเดีย ศรีลังกา เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทางตอนเหนือของออสเตรเลีย ไปจนถึงหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก โดยจัดเป็นไม้พุ่มหรือยืนต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลาง แตกกิ่งก้านสาขามากมายรอบ ๆ ต้น มีความสูงได้ประมาณ 2-20 เมตร เปลือกลำต้นมีลักษณะขรุขระเป็นสีน้ำตาลปนเทา ส่วนเปลือกชั้นในเป็นสีน้ำตาลเรื่อถึงสีชมพู มีเส้นใยเหนียว และมีสานเทนนินเป็นจำนวนมากกว่า 18 % ต่อน้ำหนักเปลือก
- ใบจิก ออกใบดก ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับเรียงเวียนรอบกิ่ง เป็นกระจุกหนาแน่นที่ปลายกิ่ง ลักษณะของใบเป็นรูปไข่กลับ รูปไข่กลีบแกมรูปขอบขนาน หรือรูปหอก ปลายใบเป็นติ่งแหลม โคนใบสอบแคบ ส่วนขอบใบหยักตื้นมนและละเอียด หรือเป็นจักเล็กน้อยคล้ายกับฟันเลื่อย ใบมีขนาดกว้างประมาณ 4-14 เซนติเมตรและยาวประมาณ 14-36 เซนติเมตร แผ่นใบสีเขียว หลังใบและท้องใบเรียบ เนื้อใบบางคล้ายกระดาษ ไม่นุ่ม มีก้านใบสั้นและเป็นครีบเล็กน้อย ก้านใบอวบสั้น ยาวประมาณ 0.5-1 เซนติเมตร
- ดอกจิก ออกดอกเป็นช่อห้อยลง โดยจะออกที่ปลายยอด ช่อดอกมีความยาวประมาณ 20-70 เซนติเมตร ก้านช่อดอกเป็นสีชมพูและเขียว ลักษณะของช่อดอกคล้ายกับแปรงล้างขวด ส่วนก้านดอกยาวประมาณ 3-16 เซนติเมตร ดอกย่อยเป็นสีชมพู ในดอกตูม ดอกมีกลีบดอก 4 กลีบ ปลายกลีบมนและโค้ง กลีบเป็นสีชมพูมีขนาดกว้างประมาณ 0.5-1.5 เซนติเมตรและยาวประมาณ 1.5-2.5 เซนติเมตร ดอกมีใบประดับเป็นรูปสามเหลี่ยม ส่วนกลีบเลี้ยงดอกมีประมาณ 2-4 กลีบ ติดกันเป็นเนื้อเดียว มีขนาดเท่ากันหรือไม่เท่ากัน ดอกมีเกสรเพศผู้เป็นเส้นเล็กสีชมพูเข้มและมีจำนวนมาก ส่วนโคนเชื่อมติดกัน ก้านเกสรยาวประมาณ 2-4 เซนติเมตร เป็นสีขาว โคนก้านเป็นสีชมพู เรียงเป็นชั้นประมาณ 5-6 ชั้น โดยจะออกดอกในช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนกรกฎาคม (บ้างว่าออกดอกในช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคม)


- ผลจิก ลักษณะของผลเป็นรูปไข่ ปลายตัดตรง ผลมีกลีบเลี้ยงติดอยู่ โคนแคบเกือบเป็นรูปสามเหลี่ยม และผลมีขนาดกว้างประมาณ 2-4 เซนติเมตรและยาวประมาณ 5-7 เซนติเมตร ภายในผลมีเมล็ดเดี่ยว ลักษณะของเมล็ดเป็นรูปไข่ ผิวเมล็ดเป็นร่อง (ในเมล็ดมีสาร Saponin) โดยจะออกผลในช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนกรกฎาคม[
สรรพคุณของจิกสวน
- ช่วยแก้ตาเจ็บ เยื่อตาอักเสบ (เมล็ด)
- เมล็ดใช้ผสมกับน้ำนม ช่วยแก้โรคดีซ่านและโรคเกี่ยวกับน้ำดี (เมล็ด)
- ช่วยแก้อาการปวดศีรษะ (ต้น)
- แก้ชัก (ใบ)
- รากมีฤทธิ์เป็นยาเย็น นำมาทำเป็นยาแก้ไข้มาลาเรีย (ราก)
- ใบใช้ตำพอก ช่วยแก้ไข้ทรพิษ หรือจะใช้ใบตำรวมกับรากและเปลือกก็มีสรรพคุณเช่นเดียวกัน (ใบ)
- เมล็ดใช้เป็นยาแก้ไข้ตัวร้อน (เมล็ด)
- ผลนำมาตำเอาแต่น้ำใช้รับประทานช่วยแก้อาการไอ (ผล) ส่วนเมล็ดก็ช่วยแก้อาการไอเช่นกัน (เมล็ด)
- ผลนำมาตำเอาแต่น้ำใช้รับประทานช่วยแก้หืด (ผล)
- ช่วยแก้เสมหะพิการ (ต้น)
- ช่วยแก้อาการเจ็บคอ โดยนำผลมาตำเอาแต่น้ำรับประทาน (ผล)
- เมล็ดช่วยแก้อาเจียน (เมล็ด)
- ช่วยรักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน (ต้น)
- ช่วยแก้อาการท้องเสีย โดยนำผลมาตำเอาแต่น้ำรับประทาน(ผล)
- ช่วยแก้อาการจุกเสียด แน่น ปวดท้อง (เมล็ด)
- ช่วยแก้อุจจาระพิการ (ใบ)
- ใบและผลใช้ต้มดื่ม ช่วยแก้อาการท้องร่วง (ใบ, ผล)
- ช่วยแก้บิดมูกเลือด (ใบ)
- รากใช้เป็นยาระบาย (ราก)
- เมล็ดหรือเปลือกใช้เป็นยาขับพยาธิ (เมล็ด, เปลือก)
- เนื้อไม้ช่วยขับระดูขาวของสตรี (เนื้อไม้)
- ใบมีรสฝาดใช้เป็นยาสมานบาดแผล (ใบ)
- ใบใช้ตำพอกแก้อาการคัน หรือจะใช้ใบตำรวมกับรากและเปลือกก็มีสรรพคุณเช่นเดียวกัน (ใบ, ราก, เปลือก)
- ผลใช้ตำพอกแก้ผิวหนังพุพองและใช้พอกแก้เจ็บคอ (ผล)
- เปลือกใช้เป็นยาแก้โรคปวดข้อ (เปลือก)
ข้อควรระวัง ! : หากละอองเกสรของดอกจิกเข้าตา อาจทำให้ตาอักเสบและแดงได้
ประโยชน์ของจิกสวน
- ใบอ่อนของต้นจิกสวนสามารถนำมาใช้รับประทานเป็นผักสดได้ มีรสชาติดีเฉพาะตัว แต่ค่อนข้างฝาดเล็กน้อย นิยมรับประทานกันไม่เฉพาะในคนไทยเท่านั้น แต่คนชาติอื่น ๆ ก็นิยมรับประทานเช่นกัน บ้างว่านอกจากจะใช้ใบอ่อนหรือยอดอ่อนแล้ว ยังใช้ดอกรับประทานเป็นผักสดได้อีกด้วย โดยทั้งยอดอ่อนและดอกจะนิยมรับประทานเป็นผักสด หรือรับประทานเป็นผักจิ้มกับลาบ แจ่ว น้ำตก หรือขนมจีน เป็นต้น
- ดอกของต้นจิกมีความสวยงาม จึงเป็นที่นิยมในหลายท้องถิ่น ในการนำมาปลูกเป็นไม้ประดับ ซึ่งในบ้านเราจะนิยมปลูกในวัดวาอาราม เพราะนอกจากจะมีดอกและทรงพุ่มที่สวยงามแล้ว ต้นจิกยังถือเป็นต้นไม้ในพระพุทธประวัติอีกด้วย เพราะในพุทธประวัติกล่าวไว้ว่า หลังจากพระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้แล้ว ได้ทรงย้ายไปประทับนั่งเสวยวิมุตติสุขอยู่ใต้ต้นจิก 7 วัน และในระหว่างนั้นเองก็ได้มีฝนตกพรำและมีลมหนาวพัดตลอดเวลา ก็ได้มีพญานาคตนหนึ่งชื่อพระยามุจลินท์นาคราช ได้แผ่พังพานปกป้องพระพุทธเจ้าจากฝนและลมหนาวตลอดทั้ง 7 วันใต้ต้นจิก นี่คือมูลเหตุของการสร้างพระพุทธรูปปางนาคปรกสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน และบางคำภีร์ก็ได้กล่าวไว้ว่า ในป่าหิมพานต์มีสระใหญ่แห่งหนึ่งที่ชื่อว่า “สระมุจลินท์” โดยสระนี้จะมีต้นจิกขึ้นอยู่รอบขอบสระเป็นจำนวนมาก หากถือตามความเชื่อนี้ ก็ถือว่าต้นจิกนี้มีถิ่นกำเนิดในป่าหิมพานต์นั่นเอง
- เนื้อไม้จิกเป็นไม้เนื้ออ่อน มีสีขาวแกมสีแดง มีความเหนียว สามารถนำมาใช้ในงานก่อสร้างในร่มได้ดี หรือนำมาใช้ในการทำเครื่องมือเครื่องใช้ ครก สาก เครื่องเรือน หรือใช้ทำเรือ พาย ทำเกวียน เป็นต้น
- เมล็ดหรือเปลือกใช้เป็นยาสำหรับเบื่อปลา (ไม่แน่ใจว่าคือเปลือกต้นหรือเปลือกดอก แต่มีข้อมูลระบุว่าเป็นเปลือกของดอก) บ้างว่าใช้เปลือกกับเมล็ดนำมาทุบให้แตก ใช้ตีกับน้ำเป็นยาเบื่อปลา
- เมล็ดหรือเปลือกใช้เป็นยาฆ่าแมลง โดยน้ำที่สกัดได้จากเปลือกต้นมีความเข้มข้นประมาณ 2-2.5% สามารถใช้ฆ่าเพลี้ยต้นส้มได้
ภาพและข้อมูลจาก https://medthai.com/