สะเดา

สะเดาเป็นพันธุ์ไม้ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ มีความสูงประมาณ 20-25 เมตร ลักษณะของต้นเป็นทรงเรือนยอดเป็นพุ่มหนาทึบตลอดปี มีรากที่แข็งแรง กว้างขวาง และหยั่งลึก เปลือกของลำต้นค่อนข้างหนา มีสีน้ำตาลเทาหรือสีเทาปนดำ ผิวเปลือกแตกเป็นร่องตื้น ๆ หรือเป็นสะเก็ดยาว ๆ เยื้องสลับกันไปตามความยาวของละต้น ส่วนเปลือกของกิ่งมีลักษณะค่อนข้างเรียบ และเนื้อไม้มีสีแดงเข้มปนสีน้ำตาล เสี้ยนค่อนข้างสับสนเป็นริ้ว ๆ แคบ เนื้อหยาบ เป็นมันเลื่อม มีความแข็งแรงทนทาน ส่วนแกนไม้มีสีน้ำตาลแดง มีความแข็งแรงและทนทาน

ใบสะเดา

ใบแก่มีสีเขียวเข้มหนาทึบ ใบอ่อนจะมีสีแดง ยาวประมาณ 15-35 เซนติเมตร มีใบย่อยประมาณ 4-7 คู่ ใบย่อยติดตรงข้ามหรือกิ่งตรงข้าม ลักษณะใบเป็นรูปใบหอกกึ่งรูปเคียวโค้ง กว้างประมาณ 1.5-3.5 เซนติเมตรและยาวประมาณ 5-9 เซนติเมตร โคนใบเบี้ยวเห็นชัดเจน ส่วนปลายใบแหลมหรือเรียวแหลม ขอบใบเป็นจักคล้ายฟันเลื่อย ค่อนข้างเกลี้ยง มีเส้นใบอยู่ประมาณ 15 คู่ ก้านใบย่อยยาวประมาณ 1-2 เซนติเมตร ใบที่อยู่ปลายช่อจะใหญ่สุด ส่วนก้านใบยาวประมาณ 3-7 เซนติเมตร ผิวก้านค่อนข้างเกลี้ยง มีต่อม 1 คู่ที่โคนก้านใบ ในพื้นที่แล้งจัด ต้นจะทิ้งใบเฉพาะส่วนล่าง ๆ ในช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนมีนาคม  มีรสขม

ดอกสะเดา

ดอกสะเดามีลักษณะเป็นช่อแยกแขนงขนาดใหญ่ตามง่ามใบหรือตามมุมที่ร่วงหลุดไปและที่ปลายกิ่ง ยาวได้ถึง 30 เซนติเมตร ดอกมีขนาดเล็กสีขาวหรือสีเทา ดอกมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ แกนกลางของช่อมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1.5 มิลลิเมตร ลักษณะค่อนข้างเกลี้ยง แตกกิ่งกางออกเป็น 2-3 ชั้น ที่ปลายเป็นช่อกระจุกอยู่ 1-3 ดอก มีขนคล้ายไหม มีใบประดับและใบประดับย่อยเป็นรูปใบหอก ยาวประมาณ 0.5-1 มิลลิเมตร มีขนนุ่มและสั้น ส่วนก้านดอกย่อยยาวประมาณ 2 มิลลิเมตร มีขนนุ่มสั้นเช่นกัน ส่วนกลีบเลี้ยงเป็นรูปทรงแจกัน ยาวประมาณ 1 มิลลิเมตร ปลายเป็นพู 5 พูกลม พูซ้อนเหลื่อมกัน กลีบดอกมี 5 กลีบแยกออกจากกัน ลักษณะเป็นรูปช้อนแคบ ยาวประมาณ 4-6 มิลลิเมตร มีขนนุ่มสั้นขึ้นทั้งสองด้าน ท่อเกสรตัวผู้เกลี้ยงหรือมีขนนุ่ม มีสัน 10 สัน ขอบบนเป็นพูกลม 10 พู มีอับเรณู 10 อัน ยาวประมาณ 0.8 มิลลิเมตร ลักษณะเป็นรูปรีแคบ ส่วนรังไข่เกลี้ยงหรือมีขนนุ่มสั้น มักจะออกดอกในช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนมีนาคม (ในช่อดอกมีสารจำพวกไกลโคไซด์ Nimbasterin 0.005% และมีน้ำมันหอมระเหยที่มีรสเผ็ดจัดอยู่ 0.5% นอกจากนี้ยังพบว่ามีสาร Nimbecetin, Nimbesterol, กรดไขมัน และสารที่มีรสขม)

ผลสะเดา

ผลสะเดามีผิวเรียบ ลักษณะคล้ายผลมะกอก เมื่อสุกจะมีสีขาวเหลือง มีเมล็ดแข็งภายในขนาดใหญ่ เนื้อผลไม้เป็นเสี้ยนมาก มีรสชาติหวาน-ขม

เมล็ดสะเดา

เมล็ดสะเดามีเปลือกสีน้ำตาล แข็ง ภายในประกอบไปด้วยน้ำมันที่มีรสขม

สรรพคุณ

  1. รสชาติขมของสะเดาช่วยในการเจริญ โดยนำใบอ่อนหรือดอกมาลวกจิ้มน้ำพริกหรือกินกับปลาย่างน้ำปลาหวาน
  2. ใบและแก่นน้ำมาต้มน้ำดื่มเป็นยาบำรุงเลือด
  3. กิ่ง ใบ แก่น นำมาต้มน้ำให้งวด สามารถใช้เป็นยารักษามาเลเรียนได้
  4. กิ่งอ่อนประกอบไปด้วยสารเทนนินจำนวนมาก ออกฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย สามารถใช้เคี้ยวเพื่อรักษาความสะอาดในช่องปาก รักษาโรคเหงือกต่างๆ ได้
  5. เปลือกสะเดานำมาต้มน้ำรักษาโรคบิด
  6. ผลนำมาใช้เป็นยาถ่ายพยาธิ

ประโยชน์

  1. ใบและเมล็ดนำมาโขลกให้ละเอียด แช่น้ำค้างคืนเอาไว้ สามารถนำไปฉีดพ่นต้นไม้เพื่อไล่แมลงได้
  2. ไม้สะเดาเป็นไม้เนื้อแกร่ง มอดไม่กิน
  3. เปลือกและยางของต้นสะเดา สามารถนำไปย้อมสีผ้าได้