ความร่วมมือการทำความสะอาดก่อนส่งมอบคืนพื้นที่ศูนย์ราชการุณย์สภากาชาดไทย เขาล้าน ที่เคยใช้เป็น โรงพยาบาลสนามของจังหวัดตราด

ศูนย์ราชการุณย์สภากาชาดไทย เขาล้าน จังหวัดตราด ร่วมกับ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตราด โรงพยาบาลคลองใหญ่ ชุดควบคุมทหารพรานนาวิกโยธินที่ 3ฯ และ องค์การบริหารส่วนตำบลไม้รูด  ทำความสะอาดอาคาร และบริเวณพื้นที่รอบอาคาร ที่จังหวัดตราดขอใช้เป็นโรงพยาบาลสนาม ก่อนส่งมอบคืนศูนย์ราชการุณย์ฯ ระหว่างวันที่ 18-19 พฤษภาคม 2565

“เขาล้าน” ที่ไม่ได้มีแค่ทะเลและหาดสวย

“เขาล้าน” ที่ไม่ได้มีแค่ทะเลและหาดสวย

“เขาล้าน” ที่ไม่ได้มีแค่ทะเลและหาดสวย ที่น้อยคนนัก…จะรู้จักหรือได้ยินชื่อ หาดราชการุณย์ หรือศูนย์ราชการุณย์สภากาชาดไทย เขาล้าน จ.ตราด หาดทรายขาวและสวย สงบ ทอดยาว เดินมองวิวขอบฟ้าสุดสายตา แบบพาโนรามากันเลยทีเดียว ที่ ศูนย์ราชการุณย์ฯบ้านเขาล้าน อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด อยู่ห่างจาก ตัวเมือง ตราด 48 กิโลเมตร และห่างจาก บ้านหาดเล็ก ตลาดชายแดน ไทย – กัมพูชา เพียง 40 กิโลเมตร เท่านั้น
หาดราชการุณย์ ไม่ได้เป็นแค่ชายหาดท่องเที่ยว แต่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ และศูนย์ศึกษาธรรมชาติ ภายใต้การดูแลของ สภากาชาดไทยในชื่อ ศูนย์ราชการุณย์สภากาชาดไทย เขาล้าน
หากย้อนไปเมื่อ 43 ปีที่แล้ว ที่นี่ คือ…“ศูนย์สภากาชาดไทย เขาล้าน จังหวัดตราด “ คือศูนย์ช่วยเหลือแก่ผู้อพยพชาวกัมพูชา ที่อพยพหนีภัยสงครามภายในประเทศ เข้ามาทางชายแดนไทย เฉพาะทางชายแดนด้านจังหวัดตราดเมื่อเดือนพฤษภาคม 2522 มีจำนวนเขมรอพยพ ร่วมแสนคน มาพึ่งพระบรมโพธิสมภารในเขตราชอาณาจักรไทย สุดปัญญาที่ทางจังหวัดตราดจะบรรเทาความเดือดร้อนได้ สภาพเขมรอพยพในขณะนั้น เป็นที่น่าสังเวชใจของผู้พบเห็นเป็นอย่างยิ่ง แต่ละคนอยู่ในสภาพซูบผอม อดอยาก หิวโหย บางรายมีแต่ หนังหุ้มกระดูก สภาพเหมือนศพเดินได้ บางรายเจ็บป่วยนอนกับพื้นดินอย่างระเกะระกะ ผู้อพยพส่วนใหญ่ เป็นสตรีและผู้สูงอายุ ส่วนเด็กอยู่ในสภาพบ้านแตกสาแหรกขาด พ่อแม่ตายระหว่างทาง มีเด็กเล็กนอนรอความตายเป็นจำนวนมาก เนื่องจากขาดอาหารและผู้ดูแล เด็กอ่อนบางรายถูกวางทิ้งไว้ตามลำพัง นอนหายใจรอความตายอย่างช้า ๆ บนพื้นดินที่เต็มไปด้วยโคลนและอุจจาระ ด้วยเหตุที่เขมรอพยพจำนวนมากเหล่านั้น ล้วนอดอยากหิวโหย เจ็บป่วย เกินกำลังของทางจังหวัดจะดูแลช่วยเหลือได้ ดังนั้น ในช่วงต้นเดือน พฤษภาคม 2522 นายปัญญา ฤกษ์อุไร ผู้ว่าราชการจังหวัดตราดขณะนั้น จึงติดต่อขอความช่วยเหลือในชั้นต้นมายัง สภากาชาดไทย เพื่อขอความอนุเคราะห์ในเรื่องยารักษาโรค เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม และอาหาร เท่าที่จะเป็นไปได้ ในครั้งนั้น ศาสตราจารย์ นายแพทย์หม่อมหลวงเกษตร สนิทวงศ์ เลขาธิการสภากาชาดไทย ได้นำความขึ้น กราบบังคมทูลสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทยและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สภานายิกาสภากาชาดไทย โดยลำดับ
เมื่อความทราบฝ่าละอองธุลีพระบาท สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สภานายิกาสภากาชาดไทย ทรงตัดสินพระราชหฤทัยพระองค์เองโดยมิทรงคำนึงถึงความปลอดภัย ส่วนพระองค์ ทรงนึกถึงมนุษยธรรมเป็นข้อสำคัญที่หนึ่ง ดังนั้น ณ วันที่ 26 พฤษภาคม พุทธศักราช 2522 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในฐานะสมเด็จองค์สภานายิกาสภากาชาดไทย จึงได้เสด็จ พระราชดำเนินทรงเยี่ยมผู้อพยพชาวเขมรซึ่งเวลานั้นรวมกันอยู่ที่บ้านเขาล้าน ตำบลไม้รูด อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด เป็นการฉุกเฉิน เมื่อพระองค์ท่านเสด็จฯถึง จึงเสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมเยียนผู้อพยพทันที ท่ามกลางแดดเปรี้ยงตอนเที่ยงวัน พระราชดำเนินตั้งแต่ หัวบ้านเขาล้านจนไปจรดชายทะเล ระยะทางประมาณ 2.3 กิโลเมตร โดยมีทรงเห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อย
จะเห็นได้ว่าศูนย์สภากาชาดไทย เขาล้าน จังหวัดตราด ได้ตั้งขึ้นตามพระราชเสาวนีย์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สภานายิกาสภากาชาดไทย โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะช่วยชีวิตเพื่อน มนุษย์ด้วยกัน ตามหลักการของกาชาดและหลักธรรมของทุกศาสนา ซึ่งศูนย์นี้ได้เปิดให้เป็นศุนย์อพยพช่วยเหลือชาวกัมพูชาเป็นเวลา7 ปี และปิดตัวลงอย่างเป็นทางการในวันที่ 4 กรกฎาคม 2529 และในปี พ.ศ. 2535 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย ทรงมีพระราชดำริให้พัฒนาศูนย์สภากาชาดไทย แห่งนี้ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ และเฉลิมฉลองในวโรกาสที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สภานายิกาสภากาชาดไทย ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบในปี พ.ศ. 2535 และได้พัฒนาศูนย์ราชการุณย์สภากาชาดไทย เขาล้าน ให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนสำหรับประชาชนทั่วไปเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม