ข้ามไปยังบทความ
- ต้นมะแว้งต้น จัดเป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก มีอายุประมาณ 2-5 ปี มีความสูงของต้นประมาณ 1 -1.5เมตร ลำต้นมีขนาดเล็กและกลม เนื้อแข็ง เป็นสีเขียวอมเทา แตกกิ่งก้าน ทั้งต้นมีขนนุ่มสีเทาขึ้นปกคลุม และมีหนามแหลมขึ้นกระจายอยู่ทั่วต้น ส่วนเปลือกต้นเรียบเป็นสีน้ำตาล ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการใช้เมล็ด เป็นพรรณไม้กลางแจ้ง ต้องการน้ำมากและความชื้นในปริมาณปานกลาง สามารถขึ้นได้เองตามธรรมชาติในบริเวณที่ราบ ชายป่าที่โล่งแจ้งและที่รกร้างริมทาง สามารถพบได้ทั่วไปในทุกภาคของประเทศ และคาดว่ามีถิ่นกำเนิดดั้งเดิมอยู่ในเขตร้อนของทวีปเอเชียซึ่งรวมทั้งประเทศและอินเดียด้วย
- ใบมะแว้งต้น ใบเป็นใบเดี่ยวออกเรียงสลับ ลักษณะของใบเป็นรูปรี ปลายใบแหลมเล็กน้อย โคนใบมน ส่วนขอบใบหยักเว้ามนเข้าหาเส้นกลางใบและมีคลื่นเล็กน้อย ใบมีขนาดกว้างประมาณ 4-6 เซนติเมตรและยาวประมาณ 5-10 เซนติเมตร หลังใบ ท้องใบ และก้านใบมีขนสั้น ๆ ปกคลุม โดยท้องใบจะมีขนหนาแน่นหลังใบ มีหนามสั้น ๆ และมีก้านใบยาว
- ดอกมะแว้งต้น ออกดอกเป็นกระจุกตามง่ามใบหรือปลายกิ่งประมาณ 3-6 ดอก ดอกเป็นสีม่วงอ่อน มีขนาดกว้างประมาณ 2 เซนติเมตร ใจกลางของดอกมีเกสรเพศผู้สีเหลือง 5 ก้าน เชื่อมติดกันกับโคนกลีบดอก ปลายกลีบดอกจะแยกออกเป็นแฉก 5 แฉก ปลายแหลม คล้ายรูปดาว ก้านดอกมีหนามเป็นตุ่มเล็ก ๆ ยาวประมาณ 5 มิลลิเมตร ส่วนกลีบเลี้ยงเชื่อมติดกัน ปลายแยกเป็นแฉก 5 แหลม ปลายแหลม ด้านนอกมีขน
- ผลมะแว้งต้น ลักษณะของผลเป็นรูปทรงกลม ผิวผลเรียบเกลี้ยงและมัน ผลอ่อนเป็นสีเขียวหรือสีขาวไม่มีลาย ส่วนผลสุกเป็นสีแดงส้มหรือเป็นสีเหลืองอมส้ม ผลมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 เซนติเมตร หรือมีขนาดเท่ากับมะแว้งเครือ แต่จะมีสีเขียวมากกว่า และมีรสขมจัดกว่า โดยภายในผลมะแว้งต้นจะมีเมล็ดขนาดเล็ก ลักษณะเป็นรูปกลมแบน สีน้ำตาลอ่อนอยู่เป็นจำนวนมาก
สรรพคุณของมะแว้งต้น
- รากและผลมีรสขมเปรี้ยว เป็นยาเย็น มีพิษเล็กน้อย ช่วยทำให้เจริญอาหาร (ราก, ผล) ส่วนใบก็มีสรรพคุณบำรุงธาตุเช่นกัน (ใบ)
- ใช้เป็นยาบำรุงธาตุในร่างกาย (ราก, ใบ, ผล)
- ผลสุกและผลดิบมีรสขื่นเปรี้ยว ช่วยแก้โรคเบาหวาน ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้บ้าง (ผล) ด้วยการใช้ผลมะแว้งต้นโตเต็มที่ประมาณ 10-20 ผล นำมารับประทานเป็นอาหารกับน้ำพริก (ผล)
- ช่วยแก้อาการปวดศีรษะ แก้ปวดฟัน (ราก, ผล)
- ช่วยแก้ไซนัส (ราก, ผล)
- รากและใบช่วยแก้วัณโรค (ราก, ใบ)
- ช่วยแก้ไข้สารพัดพิษ แก้ไข้เพื่อเสมหะในคอ (ผล) ส่วนรากมีรสขมขื่นเปรี้ยว เป็นยาแก้ไข้สันนิบาต (ราก)
- สรรพคุณของรากมะแว้งในบางตำราระบุว่าใช้ระงับความร้อน (ราก)
- ตำรายาไทยจะใช้ผลเป็นยาแก้ไอ โดยใช้ได้ทั้งผลแห้งและผลสดประมาณ 5-10 ผล นำมาตำให้แหลก คั้นเอาแต่น้ำผสมกับเกลือเล็กน้อย นำมารับประทาน (ผล) ส่วนใบและรากก็เป็นยาแก้ไอเช่นกัน (ใบ, ราก)
- ช่วยขับเสมหะ ด้วยการใช้ผลประมาณ 5-10 ผลนำมาตำให้แหลก คั้นเอาแต่น้ำผสมกับเกลือเล็กน้อย นำมารับประทาน (ผล) ส่วนรากช่วยกัดเสมหะ ขับเสมหะ (ราก)
- รากและผลมีรสขมขื่นเปรี้ยว ช่วยแก้น้ำลายเหนียว (ราก, ผล)
- ช่วยแก้คอแห้ง (ผล)
- ช่วยรักษาต่อมทอนซิลอักเสบ ต่อมน้ำเหลืองอักเสบ (ราก, ผล)
- ช่วยแก้โรคหอบหืด ด้วยการใช้ผลมะแว้งต้นแก่ประมาณ 10-20 ผล นำมาเคี้ยวกลืนทั้งน้ำและเนื้อ โดยให้รับประทานบ่อย ๆ จนกว่าอาการจะดีขึ้น (ผล)
- รากและผลเป็นยาขับลม (ราก, ผล) เนื้อไม้ช่วยแก้อาการจุกเสียดแน่น แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ช่วยขับลม (เนื้อไม้)
- ช่วยแก้อาการปวดกระเพาะ (ราก, ผล)
- ช่วยแก้ผิดสำแดง (ผล)
- เนื้อไม้เป็นยาขับพยาธิ (เนื้อไม้)
- รากและผลช่วยขับปัสสาวะ (ราก, ผล)
- ผลช่วยละลายก้อนนิ่ว (ผล)
- ราก ผล และทั้งต้นช่วยแก้โลหิตออกทางทวารหนัก ทวารเบา (ราก, ผล, ทั้งต้น)
- ช่วยรักษาโรคทางไตและกระเพาะปัสสาวะ (ผล)
- ช่วยบำรุงน้ำดี (ราก, ผล)
- ช่วยรักษามะเร็งเพลิง (ราก)
- ช่วยแก้คัน (ราก)
- ช่วยแก้ฟกช้ำดำเขียว ปวดบวมอักเสบ (ราก, ผล)
ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของมะแว้งต้น
- ผลมะแว้งต้นพบสาร Alkaloids หลายชนิด เช่น Diosgenin, Solanine, Solasodine (สารนี้พบได้ทั้งในส่วนของผล ใบ และต้น) อีกทั้งยับพบสารจำพวก Amino acid, Flavonoid glycoside, Phenols ส่วนในเมล็ดมะแว้งต้นพบไขมันและวิตามินซี เป็นต้น ส่วนใบและผลยังพบ Diogenin, Solanine, Solanidine Beta-sitosterol
- สารสกัดจากมะแว้งต้นมีฤทธิ์แก้ปวด แก้อาการอักเสบได้ โดยสารดังกล่าวจะออกฤทธิ์คล้ายกับ Cortisone
- สาร Solasodine เป็นสารที่มีประสิทธิภาพในการขับเสมหะและแก้อาการไอได้ดี
- เมื่อนำสาร Solasodine ที่สกัดได้จากผลมาฉีดให้หนูที่เป็นเบาหวานในขนาด 50-100 มิลลิกรัมต่อ 1 กิโลกรัม พบว่าไม่ทำให้น้ำตาลในเลือดของหนูที่เป็นเบาหวานเพิ่มขึ้น แต่หากฉีดให้กับหนูที่ไม่มีโรคเบาหวาน จะมีผลทำให้น้ำตาลในเลือดของหนูเพิ่มขึ้น
- น้ำสกัดผลมะแว้งมีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด แต่มีฤทธิ์น้อยและระยะเวลาการออกฤทธิ์สั้น และยังพบสเตียรอยด์ในปริมาณค่อนข้างสูง จึงไม่ควรนำมาใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน
- สาร Solanine หากนำมาใช้ในปริมาณที่มากเกินไปจะทำให้เกิดอาการเป็นพิษ ทำลายเซลล์ในเม็ดเลือด ทำให้มีอาการปวดศีรษะ ปวดท้อง อาเจียน ตาพร่ามัว ขับถ่ายฉับพลัน หัวใจเต้นถี่ และค่อย ๆ ลดลงจนหัวใจหยุดเต้น หรือทำให้ควบคุมสติไม่ได้และสลบไป โดยสารดังกล่าวจะพบมากในผลมะแว้งต้นดิบ
ประโยชน์ของมะแว้งต้น
- ผลอ่อนใช้รับประทานเป็นผักสดได้ โดยอาจนำไปลวกหรือเผาจิ้มกับน้ำพริก หรือใช้ประกอบอาหาร ทำแกง หรือใช้ประกอบอาหารเพื่อเพิ่มรสขม เช่น แกงใส่ปลาแห้ง หรือน้ำพริก เป็นต้น โดยผลมะแว้งต้นจะมีวิตามินเอค่อนข้างสูง ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกายหลายอย่าง
- นอกจากผลอ่อนแล้ว ยอดอ่อนก็ใช้รับประทานเป็นผักได้เช่นกัน แต่ต้องนำมาต้มให้สุกเสียก่อน แล้วจึงนำไปใช้เป็นผักจิ้ม (ส่วนผลอ่อนดิบจะใช้เป็นผักจิ้มได้เลย) นิยมกินกับปลาร้า แต่ก็ใช้จิ้มกับน้ำพริกได้เหมือนกัน โดยจะมีรสชาติค่อนข้างขื่นขม แต่เมื่อเคี้ยวไปสักครู่จะรู้สึกออกรสหวานเล็กน้อย ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของผลมะแว้งดิบ
- มะแว้งต้นเป็นส่วนผสมหลักของตำรับยาประสะมะแว้ง ซึ่งองค์การเภสัชกรรมผลิตขึ้นตามตำรับยาสามัญประจำบ้านแผนโบราณ
- ผลสุกนำมาบีบใส่ตาไก่ที่มีอาการเจ็บตา หรือนำมาขยี้แล้วทาตาไก่บริเวณบวมหรือพอง (ชาวลั้วะ, คนเมือง)