ต้นรวงผึ้ง พรรณไม้หอมไทยแท้ ต้นไม้ประจำพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดมบรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบรมราชูปถัมภก สภากาชาดไทย

ต้นรวงผึ้ง  ต้นไม้ประจำพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดมบรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในหลวงรัชกาลที่ 10 

เหตุใดต้นรวงผึ้งจึงเป็นต้นไม้ประจำพระองค์

ตามธรรมเนียมที่ยึดปฏิบัติมาตั้งแต่ครั้งอดีต เมื่อพระมหากษัตริย์ขึ้นครองราชย์ราชสมบัติเพื่อปกครองประเทศให้เกิดความร่มเย็นเป็นสุข ต้นไม้ที่เป็นมงคล และมีความเกี่ยวพันกับพระมหากษัตริย์พระองค์นั้นจะถูกยกขึ้นมาเป็นต้นไม้ประจำพระองค์

โดยในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ได้มีต้นไม้ประจำพระองค์คือต้นรวงผึ้ง เนื่องจากเป็นไม้หอม ที่มีความเป็นไม้มงคลในตัว นอกจากนั้นยังมีดอกสีเหลืองที่เป็นสีประจำวันจันทร์ซึ่งเป็นเป็นวันพระราชสมภพของพระองค์อีกด้วย ซึ่งต้นรวงผึ้งนั้นเป็นต้นไม้ประจำพระองค์มาตั้งแต่ยังเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร

ความพิเศษของต้นรวงผึ้งอีกหนึ่งอย่างที่ทำให้ถูกยกขึ้นมาเป็นต้นไม้ประจำพระองค์ของในหลวงรัชกาลที่ 10 คือ ต้นรวงผึ้งนั้นจะออกดอกบานเต็มต้นในช่วงเดือนกรกฎาคม – สิงหาคม ซึ่งตรงกับวันพระราชสมภพของในหลวงรัชกาลที่ 10 คือวันที่ 28 กรกฎาคม ดังนั้นเมื่อพระองค์เสด็จออกปฏิบัติพระราชกรณียกิจที่ไหน ก็มักจะปลูกต้นรวงผึ้งพระราชทานไว้เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ประชาชนในสสถานที่นั้น

ลักษณะสำคัญต้นรวงผึ้ง

ต้นรวงผึ้ง หรือจะเรียกตามชื่อพื้นเมืองว่า ต้นน้ำผึ้ง ต้นสายน้ำผึ้ง ก็ได้ ต้นรวงผึ้งเป็นไม้หอมที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทย พบมากในป่าทางภาคเหนือ สูงจากระดับน้ำทะเล 1,000-1,100 เมตร เป็นพันธุ์ไม้ประเภทเดียวกับปอ กระเจาและตะขบฝรั่ง

ลักษณะเด่นของต้นรวงผึ้งคือ

ดอกสีเหลืองเข้ม มีกลิ่นหอมตลอดทั้งวัน มีช่อดอกดกที่เกิดตามซอกใบเป็นช่อสั้น โคนกลีบเลี้ยงเชื่อมติดกัน ปลายแยกออกเป็น ๕ แฉกคล้ายรูปดาว ไม่มีกลีบดอก มีเกสรตัวผู้จำนวนมาก ซึ่งส่วนที่มองเห็นเป็นสีเหลืองเหมือนดอกนั้นคือเกสรตัวผู้ที่รวมกันเป็นกระจุก ลำต้นแตกกิ่งต่ำ กิ่งค่อนข้างเล็กเรือนยอดเป็นพุ่มมน ใบเดี่ยวเรียงสลับ รูปแผ่นใบสองข้างไม่เท่ากัน ผิวใบด้านบนสีเขียว ด้านล่างสีน้ำตาลอมนวล สามารถขยายพันธุ์ด้วยการตอนกิ่งและเพาะเมล็ด

ดอกรวงผึ้งจะเบ่งบานในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม ผลิดอกได้นาน ๗-๑๐วัน เมื่อดอกสีเหลืองบานพร้อมกันทั้งต้น จะดูงดงามอร่ามตา และส่งกลิ่นหอมชื่นใจตลอดทั้งวัน

การขยายพันธุ์

การตอน เป็นวิธีการที่เหมาะสม ที่สวนไม้หอมฯ ได้ทำการทดลองแล้วมีความจำเป็นต้องใช้ฮอร์โมนในการเร่งรากจึงจะได้ผลดีในการขยายพันธุ์

การขยายพันธุ์

การตอน เป็นวิธีการที่เหมาะสม ที่สวนไม้หอมฯ ได้ทำการทดลองแล้วมีความจำเป็นต้องใช้ฮอร์โมนในการเร่งรากจึงจะได้ผลดีในการขยายพันธุ์

ข้อดีของพันธุ์ไม้ต้นรวงผึ้ง

  1. เป็นพันธุ์ไม้ที่ออกดอกครั้งละมากๆ (เต็มต้น) เมื่อดินแห้งตามธรรมชาติ
  2. เป็นพันธุ์ไม้หอมที่มีช่วงการปลูกกว้าง สามารถขึ้นได้ดีทั้งที่แห้งแล้งและที่ค่อนข้างชื้น
  3. เป็นพันธุ์ไม้ที่ทนทานต่อสภาพแวดล้อม ไม่ต้องการการดูแลมาก ใบไม่ค่อยร่วง
  4. เป็นพันธุ์ไม้ที่มีระบบรากดีมาก ไม่มีการหักโค่นของต้นขนาดใหญ่ ถึงแม้ว่าจะเป็นกิ่งที่ได้จากการตอน

ข้อแนะนำ

  1. เนื่องจากมีการออกดอกครั้งละมากๆ และมีผึ้งตอมเป็นจำนวนมาก ผึ้งอาจเป็นอันตรายต่อผู้ปลูก
  2. เป็นพันธุ์ไม้หอมที่ออกดอกในระยะสั้นเพียง 7 – 10 วัน/ครั้ง/ปี เท่านั้น
  3. ในพื้นที่ที่มีน้ำมาก รวงผึ้งจะไม่ออกดอกพร้อมกันทั้งต้น

การเลือกต้นรวงผึ้งที่ถูกต้อง ควรเป็นกิ่งกระโดงที่ตรง จะทำให้การเจริญเติบโตดี ทรงต้นสวยงามกว่ากิ่งที่ตอนมาจากส่วนอื่นๆ ของต้น

ข้อมูลอื่นๆ ของต้นรวงผึ้ง

  1. เป็นพันธุ์ไม้ขนาดใหญ่ต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะเริ่มออกดอกให้ชม
  2. เป็นพันธุ์ไม้หอมที่เริ่มลดน้อยลงเนื่องจากเป็นพันธุ์ไม้ที่ออกดอกช้า ช่วงการออกดอกไม่นาน และต้องใช้พื้นที่ในการปลูกมากๆ ไม่ค่อยตรงกับนิสัยคนไทยมากนัก หากไม่ชอบรวงผึ้งจริงๆ ก็ไม่ควรปลูก จะได้ไม่เสียเวลาเปล่า

ขอขอบคุณ

ข้อมูล :อุทยานหลวงราชพฤกษ์

ภาพ :ศูนย์ปฏิบัติการวิจัยและเรือนปลูกพืชทดลอง